Hello~
สวัสดีเพื่อนๆในBloggerทุกคนนะคะครั้งนี้เป็นครั้งแรกในการทำbloggerเป็นของตัวเองถ้ามีอะไรผิดผลาดก็ขออภัยด้วยนะคะ มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเนอะ จากชื่อโพสทุกคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วนะคะว่าวันนี้เราจะมาพูดถึงสิ่งที่ทุกคนนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ฮอตฮิตกันน่าดูเลยสำหรับของหวานสุดซี๊ดดดที่ทุกคนนิยมทานกันในช่วงปีนี้เอามากๆนั่นก็คือBingsuนั่นเองซึ่งหลายๆคนได้ยินชื่อนั้นจะต้องร้องอ๋อขึ้นมาทันทีเลยใช่มั้ยล่ะเพราะรสชาติของมันนั้นทั้งหอมหวานเอามากๆเอาละๆไม่ทำให้เสียเวลาไปมากกว่านี้ละกันนะคะเรามาทำความรู้จักกับBingsuให้มากกว่าเดิมเลยละกันว่านอกจากหน้าตาที่แสนยั่วยวนกับรสชาติที่อร่อยนั้นเรามารู้จักกับขนมหวานชิ้นนี้กันให้มากกว่าเดิมกันเลยดีกว่า Let's go!!!
บิงซู (Bingsu) คืออะไร?
บิงซู (Bingsu) คือ น้ำแข็งใสปั่นละเอียดราดด้วยท้อปปิ้งหรืออธิบายง่ายๆ ก็คือ น้ำแข็งใสเกล็ดหิมะของเกาหลี (บิงซู แปลว่า น้ำแข็งใส) ถือว่าเป็นนของหวานประจำชาติเกาหลีเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เย็น และสดชื่นทุกคำที่รับประทานจึงทำให้บิงซูเป็นของหวานยอดฮิตของประเทศเกาหลีในฤดูร้อนค่ะ
แต่ก็ยังมีบิงซูอีกหลายแบบทั้งบิงซูชาเขียว บิงซูช็อกโกแลตหรือบิงซูธัญพืชเหมาะแก่คนรักสุขภาพให้เลือกรับประทานอีกมากมายแล้วแต่ความชอบของผู้ทานได้เลยค่ะ
ท้อปปิ้งหลักๆ ของบิงซูมีอะไรบ้าง?
ส่วนมากแล้วท้อปปิ้งของบิงซูจะเป็น ingeolmi หรือผงถั่วใส่อัลมอนด์กับโมจิ ผลไม้ ผงแป้ง แยม และซีเรียล ตบท้ายด้วยไอศครีมค่ะ
นอกจากนี้บางร้านยังมีนมหรือนมข้นแยกไว้ให้เติมอีกต่างหาก สำหรับท่านใดที่อยากเพิ่มความหวานให้บิงซู
แล้วมีบิงซูกี่ประเภท?
ตามร้านกาแฟหรือคาเฟ่ต่างต้องมีบิงซูไว้ในเมนูอาหาร ซึ่งส่วนมากในประเทศไทยเรานั้นจะมีหลักๆ อยู่ 2 ประเภทคือพัตบิงซู และบิงซูผลไม้ แต่ความจริงแล้วบิงซูมีทั้งสิ้น 4 ประเภทค่ะ โดยแบ่งออกเป็น
1. แบบออริจินัลหรือคลาสสิคเรียกว่า พัตบิงซู (Patbingsu) คำว่า Pat แปลว่า ถั่วแดง จึงมีจุดเด่นอยู่ที่ถั่วแดง
2. บิงซูผลไม้
3. บิงซูเพื่อสุขภาพ
4. บิงซูสไตล์แปลก
1. แบบออริจินัลหรือคลาสสิคเรียกว่า พัตบิงซู (Patbingsu) คำว่า Pat แปลว่า ถั่วแดง จึงมีจุดเด่นอยู่ที่ถั่วแดง
2. บิงซูผลไม้
3. บิงซูเพื่อสุขภาพ
4. บิงซูสไตล์แปลก
มาดูกันดีกว่าค่ะว่าแต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไร
The Classic – พัตบิงซู (Patbingsu)
เชื่อกันว่า "พัตบิงซู" มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซ็อน (the Joseon Dynasty) แต่ไม่ปรากฎว่าใครเป็นผู้คิดเมนูนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ทานบิงซูนี้ต้องเป็นคนมีฐานะ และรวยเท่านั้น เพราะการจะทำให้น้ำแข็งมีเนื้อละเอียดเหมือนหิมะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
โดยจะเสิรฟ์น้ำแข็งทุบละเอียดคู่กับถั่วแดงเชื่อม ซึ่งจะโป๊ะลงไปบนน้ำแข็งที่มีรสนมคล้ายนมข้นหวาน และอาจจะมีการเพิ่มถั่ว และเมล็ดธัญพืชในภายหลังซึ่งจะอยู่ข้างบนสุดของพัตบิงซูค่ะ
โดยจะเสิรฟ์น้ำแข็งทุบละเอียดคู่กับถั่วแดงเชื่อม ซึ่งจะโป๊ะลงไปบนน้ำแข็งที่มีรสนมคล้ายนมข้นหวาน และอาจจะมีการเพิ่มถั่ว และเมล็ดธัญพืชในภายหลังซึ่งจะอยู่ข้างบนสุดของพัตบิงซูค่ะ
ท้อปปิ้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถั่วแดง เมล็ดถั่ว และเมล็ดธัญพืช ในพัตบิงซูถือว่าอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร และให้ประโยชน์แก่ร่างกายพร้อมกับคลายร้อนไปในตัว
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งท้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกันสำหรับพัตบิงซูคือ misutgaru หรือผงแป้งที่ผสมด้วยถั่วหรือธัญพืช และแป้งต๊อก (rice cake) ที่ให้ความเหนียวหนึบ และเพิ่มความมันส์ในการทานบิงซูมากขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งท้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกันสำหรับพัตบิงซูคือ misutgaru หรือผงแป้งที่ผสมด้วยถั่วหรือธัญพืช และแป้งต๊อก (rice cake) ที่ให้ความเหนียวหนึบ และเพิ่มความมันส์ในการทานบิงซูมากขึ้นค่ะ
บิงซูผลไม้ (‘Fruit-full’ Bingsu)
สำหรับบิงซูที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันคือ บิงซูผลไม้ เพราะถั่วแดงซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในบิงซูแบบออริจินัลหรือพัตบิงซูให้ความหวานมาก และบางคนก็แพ้ถั่ว ดังนั้นการนำผลไม้สดๆ ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่ มะม่วงหรือเมล่อน มาทานคู่กับน้ำแข็งรสหวานจึงได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนค่ะ
บิงซูช็อกโกแลต เหมาะสำหรับคนชอบทานและลิ้มลองช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจ
ยังๆยังไม่หมดนะคะยังมีบิงซูอีกหลายเมนูให้เลือกสรรค์กันทานมากมายอาทิเช่น
บิงซูเมล่อนหอมๆ
เอาใจคนรักชาเขียวหน่อยวู้ววววว
ตามมาติดๆกับบิงซูสัญชาติไทยนั่นก็คือบิงซูชาไทยนั่นเองงง
เอาละค่ะทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเมนูที่คัดเลือกมาจากทั้งหมดนะคะหวังว่าการแนะนำและบอกความเป็นมาคร่าวๆนั้นจะทำให้เป็นตัวเลือกในการเลือกทานเมนูบิงซูพร้อมได้รับความรู้ไปพร้อมๆกันไม่มากก็น้อยนะคะ ไว้พบกันใหม่ในโอกาสหน้าขอบคุณมากนะคะบายย~
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น